การลงทุนในกัมพูชา กับปัญหาที่ต้องเผชิญ

       กระแสการลงทุนจากต่างชาติกำลังโหมกระหน่ำเข้ามาในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ โดยเฉพาะทุนจากญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ รวมไปถึงประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในซีกตะวันตกที่หลีกหนีความวุ่นวายทางเศรษฐกิจในยุโรปมายังเอเชียมากขึ้น หากเจาะจงไปที่อาเซียนอย่างเดียวแล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพแห่งหนึ่งของโลก ทั้งด้วยประชากรร่วม 600 ล้านคน อีกทั้งยังมีระดับแรงงานตั้งแต่ฝีมือชั้นสูง จนกระทั่งฝีมือชั้นล่างราคาถูกมากมาย
 
        กัมพูชา หนึ่งในประเทศกลุ่ม CLMV ประกอบด้วย สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ที่ต่างชาติให้ความสนใจและเข้าลงทุนมานานแล้ว ด้วยค่าแรงที่ถูกทำให้อุตสาหกรรมสิ่งทอกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ไม่แพ้ภาคเกษตรกรรม แต่ปัญหาเริ่มเกิดขึ้น เมื่อนักลงทุนที่หนีค่าแรงสูงจากจีน และไทยเข้ามาลงทุนยังกัมพูชามากขึ้น เริ่มกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนแรงงาน ในรายงานของเดอะ แคมโบเดีย เดลีย์ ระบุโดยอ้างคำพูดของนายยาซูยุกิ อิโนะอูเอะ รองประธานบริษัทมิเนเบอะว่า ทางบริษัทประสบปัญหาในการหาแรงงานมีฝีมือ
 
      ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ต้นทุนการผลิตในไทย และในจีน สูงเกินกว่าจะขยายกิจการ ดังนั้นกัมพูชาเป็นประเทศที่น่าสนใจ แต่การจ้างแรงงานกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศนี้เป็นความท้าทายอย่างมาก
 
      ด้าน อ่อง โบรินน์ หัวหน้าฝุายทรัพยากรมนุษย์ จากบริษัทให้ค าปรึกษา เอ พลัส ในกัมพูชา กล่าวว่า จ านวนของผู้ที่จบการศึกษามีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือนักศึกษาจบใหม่มาจากสาขาที่ ไม่ตรงกับต าแหน่งงานที่บริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนในกัมพูชา  เป็นปัญหาที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามต้องตระหนักไว้ว่า ปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือในกัมพูชา ลาว และในเมียนมาร์ เป็นผลมาจากการไหลเวียนของแรงงานจากประเทศที่มี ค่าแรงต่ าไปสู่ประเทศที่มีค่าแรงสูงกว่าอย่างไทย
 
        นายออซกัน ซาริกาย่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท อะติกทา (ไทยแลนด์) จ ากัด บริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ก๊าซรถยนต์ และติดตั้งก๊าซรถยนต์ LPG กล่าวว่า กัมพูชาประสบปัญหาแรงงานขาดแคลนอย่างที่หลายฝุายกล่าวอ้างจริง และยากที่จะหาพนักงานที่เหมาะสม กับต าแหน่งอย่างนักบัญชีและผู้จัดการอีกด้วย
 
         อีกปัจจัยหนึ่งที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน คือ ปัญหาด้านการเมือง ในกัมพูชาขณะนี้ยังไม่จบลงง่ายๆ ทั้ง ยังมีปัญหาการขอขึ้นค่าแรงจากบรรดาแรงงานในอุตสาหกรรมสิ่งทออีกด้วย โดยนายฮิโรชิ ซูซูกิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจกัมพูชา เชื่อว่าปัญหาทางการเมืองในกัมพูชาที่มีผล กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม แต่ยังคงอยู่ในวงจำกัด
 
        นายซาริกาย่ากล่าวว่า สถานการณ์การเมืองทั้งในไทยและกัมพูชาส่งผลกับบริษัทอะติกทาอย่างมาก เนื่องจากยอดซื้อที่ลดลง ส าหรับกัมพูชา ซาริกาย่าชี้เพิ่มเติมว่า เป็นประเทศที่มีศักยภาพต่อการลงทุน แต่ปัญหาการประท้วงตามท้องถนนและการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง ทำให้นักลงทุนรายใหญ่อย่างเกาหลีใต้บางรายเริ่มระงับการลงทุนในกัมพูชา  ทั้งเรื่องการเมืองและความท้าทายต่อการหาแรงงานในกัมพูชา ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่บั่นทอนชื่อเสียงของประเทศ และเชื่อได้ว่าในอนาคตรัฐบาลกัมพูชาต้องมีการออกมาตรการคุ้มครองแรงงานมากขึ้น กับเหตุการณ์แรงงานในอุตสาหกรรมสิ่งทอ
กว่า 200 คน ใน 3 บริษัทผลิตอุปกรณ์ชุดกีฬาชื่อดัง หมดสติจนต้อง น าตัวส่งโรงพยาบาล
 
         สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานถึงเหตุการณ์นี้ว่า ปัญหาหลักมาจากการระบายอากาศที่แย่ในโรงงาน กลิ่นของสารเคมีที่รุนแรง อีกทั้งยังมีปัญหาการใช้แรงงานเกินเวลาโดยไม่ให้ค่าแรงเพิ่ม ประกอบกับการให้ค่าจ้างต่ ากว่า 100 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งส่งผลต่อสภาพชีวิตของชาวกัมพูชา  แรงงานเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่ากัมพูชาจะมีศักยภาพในการลงทุนที่ใช้แรงงานเข้มข้นก็ตาม แต่ด้วย
ปัญหาทางการเมืองและสวัสดิภาพแรงงานในประเทศ เป็นแรงเร้าสำคัญที่ทำให้ นักลงทุนต้องหันมาไตร่ตรองให้ดีก่อนจะเข้าไปลงทุนในประเทศนี้



เรียบเรียงโดย KERO uAsean.com
เนื้อหาอ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ